[Yaoi][SF] Love Light~ (ChangminHo)
แม้เราจะไม่ได้พบกันมานาน แต่ความรักที่มีให้กันยังไม่เคยจืดจางหายไป แต่ละคนเปรียบดั่งแสงเล็กๆ ของกันและกันที่คอยส่องแสงให้ความรักยังคงหวานละมุนในหัวใจไม่เคยจืดจาง...
ผู้เข้าชมรวม
1,278
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Writer: korazy_minnie
Pairing: Changmin x
Category: Romantic
Rating: PG-17
Writer’s note: ฟิคเรื่องแรกที่แต่งขึ้นมาด้วยความคิดถึง ได้แรงบันดาลใจจากเพลง Love Light ของ C.N.Blue บวกกับกระแสความร้อนแรงของคู่ชางมินโฮที่ตัวติดกันเหลือเกิน ขอแต่งฟิคสนองนี๊ดตัวเอง ไม่มีแก่นสารและพลอตอะไรสักนิดเดียว 555+
ครืด...ครืด
ทัชโฟนสีดำเมทัลลิสั่นกระทบกับโต๊ะข้างเตียงนอนในคอนโดมิเนียมหรูย่านคังนัมที่เจ้าตัวไม่ได้แวะเวียนมาหลายเดือน มือเรียวควานหาสะเปะสะปะในความมืดที่มีเพียงแสงไฟจากหน้าจอโทรศัพท์เพียงเล็กน้อย เปลือกตาอันหนักอึ้งของชางมินปรือขึ้นเล็กน้อยเพื่ออ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาในเวลาเกือบรุ่งสาง
พี่ครับ...ผมเพิ่งซ้อมเสร็จเองครับ TT-TT~ เหนื่อยมากๆ เลย คิดถึงพี่จัง...
ชางมินลืมเสียสนิทที่ไม่ได้โทรเล่าให้คนรักฟังว่าเขากลับมาที่โซลแล้ว นิ้วเรียวรีบเลื่อนผ่านไอคอนสีสดใสบนหน้าจออย่างรวดเร็วเพื่อกดเบอร์โทรศัพท์ของคนรักที่จำได้จนขึ้นใจ...
เสียงรอสายดังอยู่สักพักใหญ่พร้อมทั้งเสียงหัวใจที่เต้นดังโครมครามด้วยความตื่นเต้น คิดถึงเสียงหวานๆ ของคนรักที่แม้จะไม่ใช่คนช่างเจรจา แต่ก็เป็นผู้ฟังที่ดีและคอยให้กำลังใจในเวลาที่ยากลำบากของเขาเสมอ
“มินโฮ...ชเวมินโฮ”
‘พี่ชางมิน...’ เสียงหวานเอ่ยเรียกคนที่โทรมาหาด้วยความแปลกใจระคนกับรู้สึกผิดที่ส่งข้อความไปหาในเวลาที่คนรักคงเข้านอนไปนานแล้ว
‘พี่ตื่นเพราะผมรึป่าว...’
“ใช่ นายทำพี่ตื่นล่ะมินโฮ” ชางมินเก๊กเสียงง่วงนอนใส่ปลายสาย ริมฝีปากหยักแอบยกยิ้มอย่างสนุกเมื่อจินตนาการถึงใบหน้าของมินโฮที่ป่านนี้คงจะทำหน้าหงอยไปแล้ว
‘ก็...ผมคิดถึงพี่นี่’ เสียงอู้อี้ที่บอกคำว่าคิดถึงจากปากของเด็กขี้อายอย่างมินโฮทำให้ชางมินรู้สึกผิดที่แกล้งทำให้คนรักไม่สบายใจ
“ล้อเล่นน่ะ พี่ก็คิดถึงนายมาก...มินโฮ”
‘ฮะ...’
“แล้วซ้อมเป็นยังไงบ้าง นายคงเหนื่อยมากใช่มั้ย”
‘ก็เหนื่อยครับ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผมควรจะทำอยู่แล้ว...พี่ล่ะ ถ่ายละครไปถึงไหนแล้ว’
“ตอนนี้พี่กลับมาโซลแล้วนะ”
‘ไม่คิดจะบอกผมสักคำล่ะสิ’ เสียงสูงขึ้นท้ายประโยคของชเวมินโฮทำให้ชางมินพอจะเดาได้ว่าเด็กน้อยของเขาก็แอบงอนอยู่
“ก็กำลังบอกอยู่นี่ไงครับ พี่เพิ่งกลับมาไฟล์ทดึกเมื่อกี้เอง อย่างอนเลยนะคนดี”
‘ผมไม่กล้างอนพี่หรอกครับ ถ้าพี่ทิ้งผมไป...ผมจะทำยังไงล่ะครับ’ น้ำเสียงเศร้าสร้อยเจือความน้อยใจของมินโฮยิ่งทำให้ชางมินอยากจะเข้าไปปลอบใกล้ๆ อยากจะกอดให้หายคิดถึงทั้งวันทั้งคืน
“ตอนนี้นายทำอะไรอยู่”
‘ผมกำลังจะถึงคอนโดแล้วล่ะฮะ’
“งั้นขึ้นมาห้องพี่สิ วันนี้พี่นอนคอนโดน่ะ”
‘อือ...แต่พรุ่งนี้ผมต้องซ้อมต่อตอนสิบโมงนะ’
“ทำไมต้องบอกพี่ด้วยล่ะ กลัวอะไรรึไง ฮ่าๆๆ”
‘พี่ชางมินน่ะไว้ใจไม่ได้เลยสักนิด ผมเลยต้องบอกก่อนไงล่ะ อ๊ะ รถเลี้ยวเข้าคอนโดแล้ว เดี๋ยวผมขึ้นไปหานะ’
“อือ แล้วเจอกันนะ”
มือเรียวรีบวางโทรศัพท์ไว้ข้างเตียงเช่นเดิม รอยยิ้มกว้างผุดบนหน้าจนเก็บไว้ไม่อยู่ หากพี่ยุนโฮอยู่คงจะต้องแซวสามวันสามคืนแน่ๆ แต่ก็โชคดีไปที่พี่ชายสุดที่รักของเขากลับบ้านไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ที่กวางจูช่วงนี้พอดี
ขายาวในชุดนอนลายหมีพูห์น่ารักที่เป็นของขวัญวันเกิดจากมินโฮปีที่แล้วเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปเปิดไฟในห้องรับแขกรอต้อนรับคนรักด้วยความตื่นเต้น ไม่นานนักออดหน้าห้องพักก็ดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าอันแสนคิดถึงของเจ้าของห้องก็ปรากฏบนอินเตอร์คอมพอดี
ชางมินรีบเดินไปปลดล็อคประตูอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งรวบร่างบอบบางของคนรักที่ไม่ได้ตั้งตัวเข้ามากอดด้วยความคิดถึง ดวงหน้าหวานของมินโฮขึ้นสีแดงระเรื่อและร้อนผ่าวเมื่อเงยขึ้นสบดวงตาคมของชางมินเข้าตรงๆ
“คิดถึงนายจะบ้าอยู่แล้วรู้มั้ย” เสียงทุ้มของชางมินเอ่ยเบาๆ ที่ข้างหูคนรัก นิ้วเรียวยาวเกลี่ยเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ข้างหูของชเวมินโฮอย่างทะนุถนอมจนอีกฝ่ายแทบหลอมละลายเพราะความอ่อนโยนที่แสนจะคิดถึงจากคนรัก
“อือ...” มินโฮเอ่ยอู้อี้ในลำคอด้วยความเขินอาย ใบหน้าเรียวได้รูปพยักหน้าตอบรับ “เข้าห้องเถอะครับ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็นเข้าหรอก”
ชางมินค่อยๆ คลายอ้อมกอดแน่นหนาเมื่อครู่แล้วจะคว้ามือเล็กของมินโฮมากุมไว้เบาๆ ก่อนจะปิดประตูห้องแล้วพาร่างบางไปนั่งยังโซฟานุ่มสีครีมตัวใหญ่ที่ห้องรับแขก
มือใหญ่ฉุดร่างบอบบางให้นั่งลงข้างกายได้ไม่ยาก มินโฮก้มหน้าก้มตาด้วยความรู้สึกเขินอาย อาจเพราะไม่ได้เจอกันนานจนทำอะไรไม่ถูก มินโฮเลยได้แต่นั่งนิ่งๆ คอยให้คนข้างกายจ้องเอาๆ อยู่นานสองนานจนเจ้าตัวรู้สึกอึดอัดจนต้องพูดออกมาก่อน
“พี่มองอะไรผมนักล่ะ หน้าผมมีอะไรแปลกไปรึไง - -+” คิ้วเรียวขมวดเป็นปมด้วยความสงสัย
“ก็คิดถึงนี่ ^^ อยากมองทั้งวันเลย” พูดไปยิ้มไปจนชางมินยังรู้สึกเลยว่ากำลังจะบ้าไปแล้ว
“เลี่ยนชะมัด :P ใครสอนพี่ให้พูดเนี่ย ผมขนลุกเลยนะ ฮ่าๆๆ” อยู่ดีๆ มินโฮก็ทำให้เป็นเรื่องตลกเสียอย่างนั้น เสียงหัวเราะดังขึ้นน้อยๆ พร้อมกับดวงตาที่หรี่ลงเพราะยิ้มที่กว้างเกินไปของเจ้าตัว
“ถ้าไม่ให้มองก็จะทำอย่างอื่นนะ...” ชางมินหันมายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์จึงทำให้คนตรงหน้าหุบยิ้มแล้วหันก้มหน้าแก้มแดงแทน “ดึกๆ แบบนี้เราควรทำอะไรกันดีน้า~”
“ผมเหนื่อยนะฮะพี่ชางมิน - -“ มินโฮรู้ทันความคิดดีจึงเอ่ยห้ามพร้อมทั้งดันร่างสูงกว่าที่โน้มตัวเข้ามาใกล้อย่างสุดแรง
“เด็กทะลึ่ง คิดอะไรอยู่ล่ะสิเนี่ย” มือหนาขยี้ผมเด็กน้อยของเขาด้วยความอ่อนโยน ริมฝีปากหยักจรดบนเส้นผมที่ปรกหน้าผากเนียนเบาๆ “จะพาไปนอนกอดเฉยๆ เองนะ หรือว่าอยากให้ทำอย่างอื่นด้วย”
“นอนฮะ” เสียงหวานตอบอย่างมั่นใจโดยไม่ต้องคิด ดวงหน้าหวานก้มงุดๆ ซบแผ่นอกกว้างของคนรัก “ผมคิดถึงพี่จังฮะ”
“อืม พี่ก็คิดถึงนาย รักนายมากด้วย ขอโทษนะที่พักหลังไม่ค่อยมีเวลาให้นายเลย”
“ผมเข้าใจพี่ฮะ ขอโทษด้วยเหมือนกันที่บางทีผมก็งอแงใส่พี่” ดวงตากลมใสแจ๋วของมินโฮยิ้มพร้อมกับริมฝีปากบางจนทำให้ชางมินใจสั่นกับความน่ารักตรงหน้า
“ขอจูบทีนึงได้มั้ย” ชางมินเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาจนมินโฮต้องหุบยิ้มทันที กลัวว่ามันจะเลยไปมากกว่าจูบจนพาลทำให้เสียงานเสียการกันทั้งสองฝ่าย มากกว่านั้นคือกลัวหัวใจตัวเองที่กำลังต้องการความรักจากคนรักที่อยู่ตรงหน้า
มินโฮนิ่งไปสักพักก่อนจะกดริมฝีปากบางลงบนปากหยักของอีกฝ่ายเบาๆ ก่อนจะผละออกมาอย่างรวดเร็ว มินโฮก้มหน้าเดินหนีร่างสูงที่ตกใจกับความใจกล้าของเด็กน้อยของเขาจนอึ้งไปสักสิบวินาทีก่อนจะรีบเดินตามเข้ามาโอบร่างบอบบางจากด้านหลังอย่างรวดเร็ว
“มาทำตัวอ้อนแบบนี้ไม่ดีนะ ไหนบอกอยากนอนอย่างเดียวไม่ใช่รึไง” ชางมินขู่ด้วยเสียงเจ้าเล่ห์ ใบหน้าหล่อเหลาคลอเคลียที่ต้นคอขาวของร่างบางที่ยืนตัวอ่อนปวกเปียกในอ้อมกอดอบอุ่นของอีกฝ่าย ริมฝีปากซุกซนฝากรอยจูบจางๆ บนผิวเนียนแถวซอกคอจนขึ้นสีชมพูจางไปทั่ว
มินโฮรู้สึกว่าเลือดในร่างกายที่ไหลเวียนอยู่นอกจากจะหล่อเลี้ยงหัวใจดวงเล็กๆ ให้เต้นรัวอย่างบ้าคลั่งแล้ว ที่เหลือคงมากองรวมกันที่ใบหน้าของเขาจนหมดเป็นแน่ ใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบจะระเบิดได้เมื่อร่างสูงเปลี่ยนจากซุกไซร้ซอกคอขาวๆ มาจูบไล่ตั้งแต่หน้าผากเนียน จมูกโด่งสวย แก้มแดงสุกปลั่งและกำลังจะรุกล้ำมาที่ริมฝีปากสีชมพูอ่อนที่สั่นระริกด้วยความเขิน
“พี่รักมินโฮนะ...”
สิ้นเสียงบอกรักของคนที่รักที่สุด ริมฝีปากของทั้งคู่ก็บดเบียดเข้าหากันด้วยความโหยหา ปากหยักดูดดึงริมฝีปากนุ่มนิ่มของอีกฝ่ายราวกลับจะกลืนกินจนมินโฮรู้สึกอ่อนระทวยในอ้อมกอดของคนรักมากยิ่งขึ้น มือเรียวปัดป่ายทั่วแผ่นหลังกว้างเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยว มือหนาประคองศีรษะกลมของคนรักเอาไว้มิให้กระแทกโดนผนังที่ตนเองดันอีกฝ่ายเข้าไปประชิด
ชางมินผละออกเล็กน้อยเมื่อร่างบอบบางหอบหายใจหนักๆ แต่เพียงเสี้ยววินาที ความโหยหาก็เรียกร้องให้อีกฝ่ายต้องการกันและกันมากขึ้นอีกครั้ง จากจูบอ่อนหวานจนชวนหลอมละลายกลายเป็นความเร่าร้อนที่แลกเปลี่ยนผ่านเรียวลิ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร ลิ้นร้อนของร่างสูงไล่แทะเล็มความหอมหวานในโพรงปากของคนรักทั่วทุกบริเวณก่อนจะหยอกล้อกับคนไม่ประสีประสาที่พยายามเกี่ยวกระหวัดลิ้นร้อนของฝ่ายรุกด้วยความไร้เดียงสา
หยาดน้ำใสค่อยๆ ไหลจากมุมปากของร่างบาง เสียงครางอื้ออึ้งด้วยความเสียวซ่านของคนรักยิ่งพาให้ผู้บุกรุกได้ใจ กดจูบหนักๆ และไล่ต้อนลิ้นเล็กๆ ของร่างบางไม่ยั้งตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จากรสจูบอันเร่าร้อน
มือหนาสอดผ่านเสื้อยืดสีดำขนาดพอดีตัวของร่างบางที่อ่อนระทวยในอ้อมกอด ผิวเนียนละเอียดของร่างบางที่ได้สัมผัสยิ่งทำให้ความต้องการพลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น เสียงครางหวิวยามที่ร่างสูงลากมือหยาบผ่านผิวกายยิ่งทำให้ร่างบางสะกดกลั้นความรู้สึกทั้งหมดไม่ไหว...เขาต้องการคนตรงหน้ามากเหลือเกิน
เมื่อริมฝีปากผละออกจากกัน ดวงตาคมก็ประสานกับดวงตากลมโตที่หวานเชื่อมด้วยแรงอารมณ์ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดอย่างน่ารักจนคนตัวสูงหมั่นเขี้ยวและฝังจมูกโด่งลงบนแก้มใสจนเสียงดังฟอดใหญ่หลายหน
“คืนนี้ท่าทางนายจะไม่ได้นอนแล้วล่ะ...” ชางมินกระซิบเบาๆ ข้างหูพร้อมทั้งขบเบาๆ ให้ร่างบางครางเสียงหวานออกมาไม่เป็นภาษา
“พี่อ่ะ >///<” มือเล็กทุบเอาที่ไหล่กว้างเพื่อระบายความเขินอาย ก่อนจะเอ่ยเบาๆ ที่ข้างหูของร่างสูงด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างน่ารัก “จะทำอะไรก็รีบๆ ทำสิฮะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปทำงานไม่ไหวพี่ต้องรับผิดชอบด้วย~”
สิ้นเสียงอนุญาตกลายๆ จากร่างบางแล้วชางมินก็ไม่เกรงใจทันที รีบช้อนร่างบอบบางมาอุ้มอย่างทะนุถนอมราวกับสมบัติล้ำค่า แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนที่เคยเปล่าเปลี่ยวซึ่งคืนนี้จะอบอวลไปด้วยความรักของคนสองคนที่ต้องการถ่ายทอดให้กันและกันตลอดทั้งค่ำคืน...
แสงแดดร้อนระอุส่องลอดผ่านผ้าม่านสีครีมเข้ามาในห้องเล็กๆ ที่อบอวลไปด้วยความรักที่แพร่ไปทั่วทุกอณู ร่างเปลือยเปล่าภายใต้ผ้าห่มเนื้อนุ่มกำลังนอนหลับสนิทภายในอ้อมกอดของคนตัวโตกว่าที่เพิ่งตื่นนอน ร่างสูงพยายามขยับตัวให้น้อยที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนช่วงเวลาอันแสนสุขของคนรัก มือหนาลูบเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่ลงมาปรกใบหน้าหวานอย่างแผ่วเบา ดวงตาคมค่อยๆ ไล่พิจารณาโครงหน้าเรียวได้รูป คิ้วเข้มเรียงตัวสวย แพขนตางอนยาวเรียงเป็นระเบียบ แก้มใสสีชมพูระเรื่อ และริมฝีปากชมพูอันอ่อนนุ่มยามได้สัมผัส
“อรุณสวัสดิ์ครับ ที่รัก” ปากหยักบรรจงจูบบริเวณขมับของคนรักอย่างหวงแหน ความคิดถึงกว่าสี่ห้าเดือนแม้จะผ่อนคลายลงบ้างแต่ก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะทำด้วยกัน ทั้งกินข้าว ดูหนัง ไปเดินเล่น ซื้อของ และอื่นๆ อีกมากมายที่พักหลังๆ ก็ห่างหายไปนานด้วยภารกิจอันหนักหนาของทั้งคู่
มินโฮขยับตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสเบาๆ บนใบหน้า ดวงตาเรียวหรี่ปรือขึ้นมองรอบกายแต่ก็ต้องหลับตาปี๋เพราะแสงสว่างจ้าของดวงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิที่ส่องแสงผ่านเข้ามา
“ตื่นแล้วเหรอ เพิ่งนอนไปสามสี่ชั่วโมงเองนะ” ชางมินขยับตัวขึ้นนั่งพิงหมอนใบใหญ่ด้านหลัง มินโฮจึงค่อยๆ ลุกขึ้นตามด้วยความงัวเงีย แต่อาการปวดบริเวณช่วงล่างของร่างกายที่แล่นริ้วขึ้นมาทำให้ใบหน้าสวยนิ่วลงเล็กน้อย
“เจ็บเหรอมินโฮ ขอโทษนะ” ชางมินค่อยๆ ประคองร่างบางขึ้นนั่งพิงข้างกายด้วยความเป็นห่วง มินโฮพยักหน้านิดหน่อยโดยไม่ได้พูดอะไรเพราะยังคงอ่อนเพลียอยู่
“พี่ฮะ กี่โมงแล้ว” ดวงตาเรียวยังคงปรืออยู่เล็กน้อยเพราะความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังไม่ลืมหน้าที่ของตัวเองที่ต้องไปฝึกซ้อมอีกครั้งตอนสายๆ ของวัน
“สิบเอ็ดโมงแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะ” ชางมินว่าหลังจากเหลือบมองนาฬิกาดิจิตอลที่ตั้งอยู่บนหัวเตียง “ไหวรึป่าวน่ะเรา”
“เอ๊ะ ผมมีซ้อมสิบโมงนี่ฮะ ตายล่ะ พี่ชเวจินฆ่าผมตายแน่เลย” จากที่งัวเงียอยู่ก็พลันตาสว่างขึ้นทันที “พี่ได้ยินโทรศัพท์ผมบ้างมั้ยฮะ” มินโฮร้อนรนอย่างมากเพราะเลยเวลานัดซ้อมมาเป็นชั่วโมงแล้ว แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ที่พี่ชางมินยังคงนิ่งเฉยอย่างผิดปกติ
“ไม่ต้องรีบหรอก พี่ขออนุญาตพี่ชเวจินให้แล้วล่ะน่า บอกว่ามินโฮเหนื่อยมากขอไปสักบ่ายโมงได้มั้ย พี่เค้าก็เลยอนุญาตน่ะ” ชางมินเอ่ยเรียบๆ พร้อมกับดึงร่างบอบบางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอีกรอบ “ยังไม่หายคิดถึงเลยรู้มั้ย เด็กน้อย”
“จริงเหรอฮะ พี่กอดผมแน่นมาทั้งคืนแล้วนะ” มินโฮว่าพลางกลั้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี นานมากแล้วที่มินโฮไม่ได้ยิ้มอย่างมีความสุขเช่นนี้ หัวกลมๆ ซุกเข้าที่ไหล่กว้างอย่างออดอ้อน “เมื่อไหร่เราจะว่างตรงกันซักทีน้า อยากไปเที่ยวกับพี่จังฮะ”
“อ้อนแบบนี้เดี๋ยวไม่ได้ไปทำงานนะ” ชางมินเตือนคนรักขี้อ้อนผิดกลับภาพลักษณ์ภายนอกพอตัว ตอนแรกๆ ที่คบกันมินโฮก็เป็นคนที่ไม่ได้แสดงออกอะไรมาก หากแต่เมื่อทั้งคู่สนิทกันมากยิ่งขึ้นความขี้อ้อนที่ซ่อนอยู่ในตัวของคนรักก็ยิ่งเปิดเผยออกมาจนชางมินหลงแทบโงหัวไม่ขึ้น
“ไว้คราวหน้าพี่จะพาไปทุกที่ๆ นายอยากไปเลย”
“อืมม์ ผมจะรอนะฮะ” มินโฮยิ้มหวานให้อีกทีจนชางมินอดหมั่นไส้แล้วขโมยมอร์นิ่งคิสไปหนึ่งที
จุ๊บ~
“พี่ชางมินนนน >////<~” มินโฮแหวเสียงดังลั่นพลางเอาหมอนนุ่มทุบตีร่างสูงเป็นการลงโทษที่ชอบฉวยโอกาสกับเขาเสียเหลือเกิน...ถึงจะรู้ว่ารักมากๆ ก็เถอะนะ ^^
Fin…
ผลงานอื่นๆ ของ Korazy_minnie ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Korazy_minnie
ความคิดเห็น